รถฟอร์กลิฟต์ไฟฟ้า หนึ่งในเครื่องจักรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยประหยัดเวลาและแรงงาน และลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการยกของหนัก ซึ่งในขั้นตอนการชาร์จแบตเตอรี่รถฟอร์กลิฟต์ไฟฟ้า เป็นสิ่งที่ช่วยรักษาประสิทธิภาพการดำเนินงานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีการชาร์จแบตเตอรี่รถฟอร์กลิฟต์ที่ถูกต้อง และเทคนิคการดูแลแบตเตอรี่รถฟอร์กลิฟต์ เพื่อประสิทธิภาพและการใช้งานที่ดี
รถฟอร์กลิฟต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน
รถฟอร์กลิฟต์ไฟฟ้า (Forklift) คือ เครื่องจักรมีเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ เป็นพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนไปบนพื้นเรียบหรือพื้นที่ลาดเอียงได้อย่างง่ายดาย โดยมีอุปกรณ์สำคัญที่เรียกว่า “งา” ยื่นออกมาจากตัวรถ ใช้สำหรับสอดและยกเพื่อขนย้ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักเกินกว่ากำลังคนจะยกได้ พร้อมสามารถปรับระดับความสูงและมุมเอียงของงาได้ตามความเหมาะสมของสินค้าที่ต้องการจะยกได้
สำหรับแบตเตอรี่รถฟอร์กลิฟต์ ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการทำงาน ทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนรถฟอร์กลิฟต์และระบบสำคัญต่าง ๆ เช่น ระบบไฮดรอลิก ระบบเบรก ระบบสัญญาณไฟ เป็นต้น มีประสิทธิภาพในการจ่ายกระแสไฟได้สูงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
อายุของแบตเตอรี่รถฟอร์กลิฟต์
อายุการทำงานของแบตเตอรี่รถฟอร์กลิฟต์โดยทั่วไปจะวัดเป็นรอบการชาร์จ (Cycle) ซึ่งหมายถึงการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ไปจนถึง 100% จำนวน 1 ครั้งเพื่อนำไปใช้งาน และเมื่อใช้เสร็จก็ต้องนำมากลับมาชาร์จไฟใหม่อีก 1 ครั้ง (Cycle) นั่นเอง
โดยเฉลี่ยแล้ว แบตเตอรี่รถฟอร์กลิฟต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-6 ปี หรือ 500-1,500 รอบการชาร์จ (Cycle) รวมถึงความเสื่อมของแบตเตอรี่ก็จะอยู่กับประเภทของแบตเตอรี่ ลักษณะการใช้งาน และการบำรุงรักษาอีกด้วย
เทคนิคการชาร์จแบตเตอรี่รถฟอร์กลิฟต์ไฟฟ้า
1. การเตรียมพื้นที่ก่อนการชาร์จแบตเตอรี่
- ควรเลือกสถานที่ชาร์จแบตเตอรี่ให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัย ห่างจากแหล่งความร้อนและความชื้น และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
- ตรวจสอบบริเวณจุดชาร์จให้ไม่มีสิ่งกีดขวาง พร้อมนำตัวรถฟอร์กลิฟต์มาจอดใกล้สถานีชาร์จ
- ตรวจสอบสภาพปลั๊กไฟสำหรับการชาร์จให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยการชำรุด
- เปิดฝาจุดเติมน้ำกลั่น เพื่อตรวจสอบน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับพอดี (ให้อยู่ในระดับที่สูงกว่าแผ่น Element Protector ประมาณ 1-2 ซม.)
- ตรวจสอบจุดเสียบปลั๊กของแบตเตอรี่กับตู้ชาร์จให้อยู่ในสถานะพร้อมใช้งาน ต้องไม่มีรอยแตกหักหรือรอยรั่ว เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้ารั่วไหล
2. การชาร์จแบตเตอรี่รถฟอร์กลิฟต์
- นำหัวปลั๊กชาร์จไฟเสียบเข้ากับปลั๊กตู้ชาร์จ และตรวจดูให้แน่น
- การชาร์จแต่ละครั้งต้องชาร์จต่อเนื่องเป็นเวลา 8 ชั่วโมงติดต่อกัน หรือขึ้นอยู่กับความจุและคุณภาพของแบตเตอรี่ด้วย
- เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ดึงปลั๊กออกจากตู้ชาร์จ และปิดฝาครอบเก็บให้เรียบร้อย
- แนะนำให้ช่างผู้ชำนาญตรวจเช็กค่าถ่วงจำเพาะ และแรงดันของเซลล์แบตเตอรี่ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ข้อแนะนำเพิ่มเติม : ไม่ควรให้แบตเตอรี่ฟอร์กลิฟต์ไฟฟ้าลดลงมากกว่า 80% เพราะต้องใช้เวลาในการชาร์จนาน และทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้นลง และควรหลีกเลี่ยงการชาร์จในขณะที่แบตเตอรี่ร้อน เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหายได้
การดูแลแบตเตอรี่รถฟอร์กลิฟต์ไฟฟ้าให้ใช้งานได้ยาวนาน
- เรียนรู้และเข้าใจการทำงานของรถฟอร์กลิฟต์ก่อนนำไปใช้งาน และควรนำไปใช้ในพื้นที่ที่มีความสะอาดและปลอดภัยเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับผู้ใช้และตัวรถได้
- ตรวจสอบระดับความจุของแบตเตอรี่อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยดูจากไฟแสดงสถานะหรือเครื่องวัดความจุของแบตเตอรี่
- ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นเป็นประจำ และเติมน้ำกลั่นให้เพียงพอ เพื่อให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มทุกครั้งหลังใช้งานจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้
- ควรชาร์จแบตเตอรี่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและแห้ง เพื่อป้องกันการลัดวงจรหรือเกิดไฟไหม้
- หมั่นบำรุงรักษาระบบชาร์จไฟอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบชาร์จไฟทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับคนที่สนใจรถฟอร์กลิฟต์ เครื่องจักรสำคัญในงานขนส่งสินค้า เข้ามาที่ SIAM SUN เรามีบริการจำหน่ายรถฟอร์กลิฟต์ไฟฟ้า ในราคามิตรภาพ ตอบโจทย์ธุรกิจทุกประเภท มีให้เลือกหลายรุ่น หลายขนาด พร้อมบริการซ่อมบำรุงภายใน 24 ชั่วโมง รับประกันการใช้งาน 1 ปีหรือ 2,000 ชั่วโมง และได้รับการรับรองระบบมาตรฐานของระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2015 หากสนใจติดต่อฝ่ายขายได้ที่เบอร์ 086-302-1778